VISION : ภายในปี ๒๕๕๕ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศีกษาสระแก้วเป็นแหล่งการเรียนรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ที่มีการพัฒนาองค์กรให้ทำงานเป็นทีมร่วมกับภูมิปัญญาท้องถิ่นและภาคีเครือข่ายด้วยกัลยาณมิตร : within the year 2012 Sakaeo Science Centre for Education is learning place of the science, the tecnology and the environmental with organization development to work as a team, cooperate with the folk wisdom and network participant with the true friend.

ราชินีแห่งดอกไม้เมืองร้อน


เมื่อสมัยที่เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำได้ว่าได้เรียนวิชาสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิต เรื่องหนึ่งคือ ดอกชบา ความเป็นจริงจุดมุ่งหมายของเรื่องไม่ได้เจาะจงที่ดอกชบาเพียงอย่างเดียว หากแต่ใช้เพื่อสื่อความรู้เกี่ยวกับพืชดอกที่มีส่วนประกอบต่างๆ ซึ่งในสมัยก่อนเทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์ยังไม่เท่าปัจจุบัน จึงทำให้นักเรียนในสมัยนั้นเรียนรู้ได้ค่อนข้างยาก มาถึงสมัยนี้เลยตั้งความหวังว่าจะทำให้เรื่องยากกลายเป็นเรื่องง่ายให้จงได้
ดอกชบาได้รับการขนานนามว่า ราชินีแห่งดอกไม้เมืองร้อน (Queen of Tropical Flower) เพราะมีความงามที่โดดเด่น ประเทศมาเลเซียและประเทศจาไมกา ใช้ดอกชนิดนี้เป็นดอกไม้ประจำชาติ (แท้จริงแล้วดอกชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดที่ประเทศจีน) ในหลักความเชื่อของศาสนาฮินดูนั้นถือว่าดอกชบาเป็นดอกไม้ของเจ้าแม่กาลี
จุดเด่นของพืชชนิดนี้ คือ มีเส้นใยที่มียางเมือก (Mucilaginous) อยู่ในเนื้อไม้ ลักษณะเป็นไม้พุ่มขนาดกลาง มีใบเดี่ยวเรียงสลับกัน ทำให้มีรูปร่างหลายแบบ เช่น วงกลม วงรี รูปไข่ หรือ รูปเว้า มีกลีบดอก 5 กลีบ เชื่อมติดกันเป็นวงที่ฐานดอก มี 2 เพศในดอกเดียว โดยสังเกตได้ดังนี้เกสรเพศผู้ มีส่วนประกอบ คือ อับเรณูสีเหลืองรูปไตและก้านชูอับเรณูสีขาวหรือสีเดียวกันเกสรเพศเมีย จะอยู่ที่ปลายหลอดเกสรเพศผู้ มักมีก้านเล็ก ๆ แยกยอดเกสรเพศเมียออกเป็น 5 ยอด ซึ่งบ่งบอกถึงจำนวนห้องในรังไข่ ส่วนปลายยอดมีน้ำหวานจับที่ละอองเรณูดอก
ชบาแบ่งได้เป็น 3 ลักษณะ คือ
1. ดอกบานรูปถ้วย 2. ดอกบานรูปแผ่แบน 3. กลีบดอกบานแบบแผ่โค้ง
ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Hibiscus syriacus L.; Hibiscus chinenis DC.
ภัฑรกิจ ไชยถา
ถ่ายภาพ:เขียน

ไม่มีความคิดเห็น: